การเลือกเครื่องดูดควันใช้ในครัวเรือน มีเรื่องใดบ้างที่ต้องรู้ เรื่องใดบ้างที่ควรศึกษา และเรื่องใดบ้างที่ทำให้คุณค้นพบความสว่าง งบไม่บาน สอดคล้องกับการใช้งาน ตามมาไขข้อกระจ่างไปพร้อมๆ กันได้กับเทคนิคฉบับสั้นที่เรารวบรวมมาให้คุณอ่านดังต่อไปนี้
1. ควรจำให้ขึ้นใจ เครื่องดูดควันคุณภาพดีต้องมีกำลังดูดที่สูงมาพร้อมกับเสียงที่เงียบ (ถ้าจะให้ดีอยู่ราวๆ 60 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงสนทนาทั่วไป หรือต่ำกว่านั้น)
2. ด้วยความที่ท่อดูดควันมักแยกซื้อต่างหาก การเลือกท่อดูดควันที่กว้างมาติดตั้ง (เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 150 มม.) สามารถช่วยในเรื่องของพลังดูด และลดทอนระดับเสียงลงได้
3. ก่อนเลือกเบอร์แรงงง... พลังดูดเต็มพิกัด ควรย้อนถามตัวเองสักนิดว่าคุณประกอบอาหารประเภทใด ถ้าไม่ใช่ครัวไทย ทำอาหารไม่มีกลิ่นฉุนแรง อาจเลือกเครื่องดูดควันที่ไม่ต้องมีกำลังดูดสูงมาก ก็สามารถดร็อปราคาลงมาได้ประมาณหนึ่ง
4. คอนโดฯ ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ (ขนาดครัวกว้างแค่ 1.40-1.60 เมตร) หรือไม่สามารถปล่อยควันออกด้านนอกได้ ควรเลือกเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนที่มีฟิลเตอร์คาร์บอนคอยดูดซับกลิ่น ซึ่งส่วนใหญ่มักดีไซน์ตัวเครื่องให้มีขนาดกะทัดรัดนั่นเอง (*Hafele มีตัวเครื่องแบบสลิมไลน์ที่ออกแบบมาทันสมัย เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก แถมสามารถซ่อนเก็บหน้าแผงช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น)
5. ฟิลเตอร์กรองคาร์บอนของเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน 1-2 ปีควรได้รับการตรวจเช็คและเปลี่ยนอยู่เสมอ เพื่อป้องการการดูดน้ำมันเข้าไปติดในมอเตอร์ ทำให้อายุการใช้งานของตัวเครื่องสั้นลงได้
6. สำหรับเครื่องดูดควันที่มอเตอร์ทำจากวัสดุอัลลอยด์ ถือว่าอึดสุด เพราะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน กว่ามอเตอร์เหล็กชุบกัลวาไนซ์ และมอเตอร์พลาสติกกิลล่อน (ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้งานหนัก-เบาแค่ไหน)
7. ควรเลือกเครื่องดูดควันที่สามารถดูดกลิ่นได้เร็ว และมีขนาดที่กว้างกว่าเตาที่ใช้เล็กน้อย เพื่อประสิทธิภาพในการดูดที่ดีนั่นเอง
8. ควรติดตั้งเครื่องดูดควันให้มีระยะห่างจากเตาไฟฟ้าประมาณ 65 ซม. หรือเตาแก๊สประมาณ 70 ซม.
9. ก่อนตั้งเตาประกอบอาหาร ควรเปิดเครื่องดูดอากาศทิ้งไว้สัก 2 นาที จากนั้นค่อยลดความแรงของเครื่องดูดควันลงก็จะสามารถช่วยดูดกลิ่นและควันได้ดียิ่งขึ้น
10. ทุกครั้งหลังจากการประกอบอาหารเสร็จ ควรเปิดเครื่องดูดควันทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที จะช่วยให้อากาศบริเวณนั้นเกิดการถ่ายเทได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
*สำหรับเครื่องดูดควันระบบท่อ (ที่ติดตั้งบนเพดาน สำหรับปล่อยควันออกนอกบ้าน) อาทิตย์ละครั้งควรหมั่นถอดฟิลเตอร์มาแช่นำร้อนสัก 15 นาที ก่อนล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจ้าง ขัดด้วยแปรงอ่อนๆ (แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วก็ได้) และนำไปผึ่งในที่ร่ม เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของคราบน้ำมัน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องดูดควันได้ด้วยนั่นเอง
หากกำลังมองหาเครื่องดูดควันดีไซน์สวยทันสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน หรืออยากได้คำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถเข้ามาที่โชว์รูม Hafele ได้ เพราะเรามีสินค้าให้เลือกเพียบ!
*ภาพสินค้าประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-768-7171
1. ควรจำให้ขึ้นใจ เครื่องดูดควันคุณภาพดีต้องมีกำลังดูดที่สูงมาพร้อมกับเสียงที่เงียบ (ถ้าจะให้ดีอยู่ราวๆ 60 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงสนทนาทั่วไป หรือต่ำกว่านั้น)
2. ด้วยความที่ท่อดูดควันมักแยกซื้อต่างหาก การเลือกท่อดูดควันที่กว้างมาติดตั้ง (เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 150 มม.) สามารถช่วยในเรื่องของพลังดูด และลดทอนระดับเสียงลงได้
3. ก่อนเลือกเบอร์แรงงง... พลังดูดเต็มพิกัด ควรย้อนถามตัวเองสักนิดว่าคุณประกอบอาหารประเภทใด ถ้าไม่ใช่ครัวไทย ทำอาหารไม่มีกลิ่นฉุนแรง อาจเลือกเครื่องดูดควันที่ไม่ต้องมีกำลังดูดสูงมาก ก็สามารถดร็อปราคาลงมาได้ประมาณหนึ่ง
4. คอนโดฯ ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ (ขนาดครัวกว้างแค่ 1.40-1.60 เมตร) หรือไม่สามารถปล่อยควันออกด้านนอกได้ ควรเลือกเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนที่มีฟิลเตอร์คาร์บอนคอยดูดซับกลิ่น ซึ่งส่วนใหญ่มักดีไซน์ตัวเครื่องให้มีขนาดกะทัดรัดนั่นเอง (*Hafele มีตัวเครื่องแบบสลิมไลน์ที่ออกแบบมาทันสมัย เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก แถมสามารถซ่อนเก็บหน้าแผงช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น)
5. ฟิลเตอร์กรองคาร์บอนของเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน 1-2 ปีควรได้รับการตรวจเช็คและเปลี่ยนอยู่เสมอ เพื่อป้องการการดูดน้ำมันเข้าไปติดในมอเตอร์ ทำให้อายุการใช้งานของตัวเครื่องสั้นลงได้
6. สำหรับเครื่องดูดควันที่มอเตอร์ทำจากวัสดุอัลลอยด์ ถือว่าอึดสุด เพราะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน กว่ามอเตอร์เหล็กชุบกัลวาไนซ์ และมอเตอร์พลาสติกกิลล่อน (ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้งานหนัก-เบาแค่ไหน)
7. ควรเลือกเครื่องดูดควันที่สามารถดูดกลิ่นได้เร็ว และมีขนาดที่กว้างกว่าเตาที่ใช้เล็กน้อย เพื่อประสิทธิภาพในการดูดที่ดีนั่นเอง
8. ควรติดตั้งเครื่องดูดควันให้มีระยะห่างจากเตาไฟฟ้าประมาณ 65 ซม. หรือเตาแก๊สประมาณ 70 ซม.
9. ก่อนตั้งเตาประกอบอาหาร ควรเปิดเครื่องดูดอากาศทิ้งไว้สัก 2 นาที จากนั้นค่อยลดความแรงของเครื่องดูดควันลงก็จะสามารถช่วยดูดกลิ่นและควันได้ดียิ่งขึ้น
10. ทุกครั้งหลังจากการประกอบอาหารเสร็จ ควรเปิดเครื่องดูดควันทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที จะช่วยให้อากาศบริเวณนั้นเกิดการถ่ายเทได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
*สำหรับเครื่องดูดควันระบบท่อ (ที่ติดตั้งบนเพดาน สำหรับปล่อยควันออกนอกบ้าน) อาทิตย์ละครั้งควรหมั่นถอดฟิลเตอร์มาแช่นำร้อนสัก 15 นาที ก่อนล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจ้าง ขัดด้วยแปรงอ่อนๆ (แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วก็ได้) และนำไปผึ่งในที่ร่ม เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของคราบน้ำมัน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องดูดควันได้ด้วยนั่นเอง
หากกำลังมองหาเครื่องดูดควันดีไซน์สวยทันสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน หรืออยากได้คำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถเข้ามาที่โชว์รูม Hafele ได้ เพราะเรามีสินค้าให้เลือกเพียบ!
*ภาพสินค้าประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-768-7171
