เพราะหลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) ประหยัดไฟ (สูงสุด 85 % เมื่อเทียบกับหลอดไส้) และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดธรรมดาทั่วไป (เฉลี่ย 15,000 ชม.) รวมถึงไม่มีรังสีอินฟราเรด และรังสี UV ที่ทำอันตรายต่อผิวผู้ใช้งาน จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันหลายบ้านเริ่มหันมาใช้หลอดประเภทนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใครที่มีแพลนอยากเปลี่ยน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เรามีหลักวิธีการเลือก LED มาฝาก รับรองไม่ยากอย่างที่คิด
พิจารณารูปร่างและขนาด
สำหรับหลอดไฟ LED ที่จะนำมาใส่ควรมีรูปทรงมาตรฐาน ไม่ใหญ่เกินกว่าหลอดที่นำมาทดแทน เพื่อให้สามารถใส่เข้ากันได้ เราต้องดูว่าขั้วรับหลอดไฟที่จะเปลี่ยนเป็นแบบใด ขั้วเกลียว (ขนาด E14, E27) ขั้วบิด (ขนาด B22d) มีอุปกรณ์ประกอบ เช่น หม้อแปลง หรือสวิทช์หรี่หรือไม่ เพราะถ้ามีก็ต้องเปลี่ยนหลอด LED ที่สามารถรองรับอุปกรณ์ประกอบเหล่านี้ได้ด้วย (ซึ่งจะมีบอกบนตัวผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ชัดเจน)
ควรรู้สัญลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์สักนิด เพื่อพิจารณาคุณภาพหลอด
ตัวอย่างเช่น หากบนบรรจุภัณฑ์ หลอดไฟ LED ปรากฏสัญลักษณ์
8w E27 220-240V 600 lumen สามารถแปลความหมายให้เข้าใจได้ง่ายดังนี้คือ
8w = กำลังไฟฟ้าที่ใช้ ขนาด 8 วัตต์
220-240V = สำหรับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ 220-240 โวลต์ ความถี่ 50-60 เฮิร์ตซ์
E 27 = ใช้ขั้วหลอดเป็นชนิดเกลียว E27
600 lumen = ปริมาณแสง 600 ลูเมน
TIPS
- หากจะเลือก LED มาใส่ทดแทนหลอดเดิม ควรเลือกหลอดที่มีคุณภาพของแสงใกล้เคียงกับหลอดเดิม โดยดูได้จากค่าปริมาณของแสงที่มีหน่วยเป็นลูเมน (lumen)
- ค่ากำลังไฟฟ้าหน่วยเป็น วัตต์ (W) หลอดใดยิ่งมีค่าวัตต์มากยิ่งกินไฟมาก
- หลอด LED คุณภาพดี ควรมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 15,000 ชม. (มีสัญลักษณ์แสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์)
- ควรเลือกใช้หลอดที่มีเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) และเครื่องหมาย CE (Comformite Europeene)
- เพราะหลอด LED มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าอยากรู้ว่าหลอดใดมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ต้องดูจากค่า ‘ประสิทธิศักย์’ มีหน่วยเป็น ลูเมนต่อวัตต์ (lm/W) โดยสามารถคำนวณได้จากการนำค่า ลูเมน ÷ วัตต์
*ซึ่งหากหลอดใดมีค่าประสิทธิศักย์มากก็จะประหยัดไฟได้มากกว่า
สำหรับปัจจุบัน หลอดไฟ LED ใช้ส่องสว่างภายในบ้านยังมาพร้อมกับนวัตกรรมอันน่าสนใจ ตรงสามารถเปลี่ยนสีสันได้หลากหลายในหลอดเดียว โดยส่วนใหญ่มักมาพร้อมรีโมทคอนโทรลไว้ให้สำหรับควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวก ซึ่งข้อดีก็คือเราสามารถปรับแสงให้เข้ากับอารมณ์และบรรยากาศตามที่ต้องการได้ แต่มีข้อเสียหน่อยๆ ตรงที่ใช้กำลังไฟมากกว่าหลอด LED ธรรมดาทั่วไปนิดนึงนั่นเอง (แต่ก็อภัยให้ได้นะ)
*ภาพสินค้าประกอบการโฆษณาเท่านั้น