โอ้ววว! เห็นข่าวหน้าจอ TV ฉายภาพงูขึ้นมาชูคอบนโถส้วม หลายคนอาจพลันนึกขำ คิดแค่เป็นเรื่องโจ๊ก ยากจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่อย่าชะล่าใจไป เพราะบ้านเก่าหรือใหม่มีสิทธิ์เจอแจ๊คพอร์ตหมด ถึงตอนนั้นไม่เพียงแก้ไขยาก อาจต้องแก้ผ้าหนีเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น รู้หรือไม่ว่าสาเหตุมาจากอะไร และวิธีแก้ไขต้องทำอย่างไร ถ้ายังนึกไม่ออกแต่ไม่อยากจ๊ะเอ๋งูขณะทำธุระส่วนตัว ดึงสติแล้วตามมาค้นคำตอบกันได้ในบทความนี้
สาเหตุที่ควรรู้
งูมักเลื้อยเข้าไปอยู่ตามรูหรือมุดไปตามซอกหลืบของตัวบ้าน ชอบอาศัยอยู่ในที่ชื้นหรือมุดไปตามท่อ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้งูโผล่ขึ้นมาจากส้วมซึมหรือทางชักโครกคือมักมุดผ่านมาจากช่องระบายหรือช่องอากาศของถังส้วมซึมที่เกิดชำรุดแตกหักและขยายใหญ่นั่นเอง ซึ่งห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างของบ้านถือว่ามีโอกาสเสี่ยงสุดที่จะเจอเหตุการณ์นี้!
วิธีป้องกัน
1.ไม่มีหนู ก็ไม่มีงู เพราะส่วนใหญ่งูชอบกินสัตว์เล็ก โดยเฉพาะหนูนี่คืออาหารโอชะ วิธีแก้ไขเบื้องต้นก็คือควรดูแลบ้านไม่ให้รก หมั่นทำความสะอาดอย่าให้มีเศษอาหารหลงเหลือไว้ให้หนูมาเยือน เมื่อไม่มีหนูโอกาสที่งูจะมาเยือนก็น้อยลง
2.สร้างให้เกิดทัศนวิสัยที่ดี หากบริเวณบ้านมีหญ้ารกร้าง ควรทำการแผ้วถางให้สะอาดเรียบเตียนซะ เพื่อความปลอดภัยไม่ให้งูมุดเข้าทางซอกหลืบได้สะดวก ทางที่ดีคือควรปิดรูต่างๆ ตรงบริเวณรอบๆ บ้านให้หมดนั่นล่ะเฉียบ
3.วางตำแหน่งที่เหมาะสม
หากทำการสร้างบ้านใหม่ ไม่ควรวางตำแหน่งชักโครกและบ่อบำบัดอยู่ติดกันเกินไป เมื่องูเข้ามาตามท่อมันจึงโผล่ออกมาที่ชักโครกเพื่อหาทางออกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรทำท่อห่างจากบ้านให้มากก็จะดี และควรเลือกใช้ท่อคุณภาพดี เพื่อไม่ให้แตกหักง่ายเมื่อทำการฝังลงใต้ดิน
4.หาวิธีสกัดกั้น กรณีท่อระบายอากาศอยู่ไม่สูง ควรหาตะแกรงคุมปลายท่อและมัดให้แน่น เพื่อป้องกันงูเลื้อยผ่านเข้าไป หรืออีกวิธีคือการเดินท่อระบายอากาศลักษณะแนบผนังให้อยู่สูงในระยะเกือบชั้นสองของบ้านเพื่อไม่ให้งูสามารถเลื้อยขึ้นไปได้ง่าย ส่วนบ่อเกรอะก็ควรติดตาข่ายที่ปลายท่อกันไว้ด้วย รวมถึงควรตรวจสอบและแก้ไขทันทีหากระบบท่อนั้นเกิดการรั่วซึมหรือมีช่องโหว่
5.กดเพื่อขับไล่ ก่อนเข้าห้องน้ำ ควรกดชักโครกสักครั้ง หรือตักน้ำราดซะก่อน (กรณีเป็นส้วมซึม) ให้มันเป็นการชะล้างหรือไล่งูไปในตัว ซึ่งก็เป็นวิธีหนึ่งท่ี่สามารถทำได้ (อาจทำให้เปลืองน้ำขึ้นมานิด... แต่ก็โอนะ สบายใจกว่่าเยอะ)
Tips ฉุกเฉินเมื่อถูกงูฉก
- กรณีโดนถูกงูกัด แม้ทำการชันชะเนาะไม่ให้พิษกระจายก็จริงแต่ก็อาจเสี่ยงปัญหาการขาดเลือด ทำให้เนื้อตรงบริเวณนั้นตายได้ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ผ้าพันบริเวณนั้นแล้วให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ ขยับเขยื้อนตัวให้น้อยที่สุด (เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นเลือดไหลเวียนนำพาพิษเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น) ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล
- เมื่อถูกงูกัดไม่ควรไปดึงหรือกระชากออกทันที เพราะอาจทำให้บาดแผลเหวอะหวะฉีกขาดมากขึ้น
- กรณีไม่รู้ว่างูที่กัดนั้นมีพิษหรือไม่ ควรถ่ายภาพงูเอาไว้ หรือเอางูไปด้วย (ถ้าเป็นไปได้นะ) เพื่อส่งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้วินิจฉัย