สีทาบ้าน เลือกอย่างไรให้สวย ทน ถูกใจ

องค์ประกอบที่สำคัญและมีผลทางจิตวิทยาประการหนึ่งนั่นคือ การเลือกใช้สีทาบ้าน เพราะสีส่งผลกระทบต่อารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ได้ค่อนข้างมาก เช่น การที่เราเห็นสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าจะรุ้สึกผ่อนคลาย เมื่อเห็นสิ่งของมีสีดำอาจให้ความรู้สึกลึกลับซ่อนเร้น เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกสีใดทาบ้านควรพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากหากต้องการเปลี่ยนแปลงภายหลังถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากมากทีเดียว เทคนิคการเลือกสีทาบ้านหรือที่พักอาศัยมีดังนี้

สีทาภายนอก ต้องอึด ถึก ทน

สำหรับภายนอกบ้านนั้น ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อสายฝนและแสงแดดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมืองไทยนั้นแสงแดดแรงยิ่งนัก ทำให้สีซีดหรือเก่าเร็ว สีที่ใช้จึงควรเป็นสีอะคริลิกที่มีส่วนผสมพิเศษช่วยปกป้องสีจากการซีดจาง รวมทั้งป้องกันความชื้นและเชื้อราด้วย และในปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมสีแบบใหม่ที่ช่วยสะท้อนความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวอาคารมากเกินไป นับว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับบ้านเมืองเราอย่างมาก

สีทาภายใน โทนอ่อน เย็นสบาย

สีที่ใช้ภายในบ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่พักอาศัย ควรเลือกใช้สีอะคริลิกที่มีความทนทานเช่นกันและควรทารองพื้นก่อนเพื่อความติดคงทน หากมีสีเก่าอยู่ ควรขูดลอกออกให้หมดก่อน เนื่องจากการทาสีใหม่ทับลงไป จะทำให้สีใหม่ไม่คงทนและลอกล่อนเสียหายเร็ว นอกจากนั้นควรเลือกใช้สีที่มีกลิ่นและสารเคมีน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน และแนะนำว่าควรใช้เป็นโทนสีอ่อนจะดีกว่าโทนสีร้อน เพราะเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา

เลือกให้ Mix & Match และสมดุล

คงเป็นเรื่องชวนปวดหัวไม่น้อยถ้าเราเลือกใช้สีทาบ้านหลายสีจนละลานตา เพราะนอกจากจะดูแปลกแล้ว หากสีที่ใช้ไม่แมตซ์กันอย่างลงตัว บ้านของคุณอาจไม่สวยไปเลยก็ได้ วิธีที่ดีคือใช้สีในโทนใกล้เคียงกันโดยแซมโทนสีอื่นอีกเล็กน้อยเท่านั้น แล้วเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีตัดกันเพื่อให้ดูน่าสนใจ กลมกลืน และโดดเด่นอย่างสมดุล

กล้าที่จะต่าง

หากคุณเป็นสุภาพบุรุษที่ชอบแต่งห้องด้วยโทนสีหวานเย็นอย่างสีชมพูพาสเทลและของกุ๊กกิ๊กลวดลายหวานแหวว หรือคุณเป็นสุภาพสตรีที่ชอบสีทะมึนโทนสีดำ/น้ำตาล เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยคงไม่กล้าหาญชาญชัยพอที่จะลุกขึ้นมาแต่งบ้านด้วยสีแบบนี้แน่ๆ แต่ตอนนี้ปี 2019 แล้ว หมดยุคของการทำตามๆ กันแล้ว ถ้าคุณอยากแต่งอะไรแต่งยังไง เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะทำได้ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่อาจไม่ต้องแต่งด้วยสีนั้นทั้งห้องก็ได้ แต่งบางส่วนแล้วแซมด้วยสีอื่นๆ เพื่อความสวยงามไม่จำเจก็ได้ เช่น ทาสีห้องด้วยสีชทพูอ่อน แล้วใช้เฟอร์นิเจอร์สีฟ้าอ่อนตัด เป็นต้น

ตัวอย่างโทนสีที่เหมาะกับแต่ละห้อง

สีฟ้า เหมาะสำหรับใช้ภายในห้องนอน เพราะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเย็นสบาย ห้องน้ำก็นิยมใช้สีฟ้าเช่นกัน
สีขาว/สีเทา ก็เป็นสีที่ได้รับความนิยมมาก หลายคนมักเลือกใช้สีขาว สีเทาควันบุหรี่ในการทาพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในบ้าน เพราะให้ความรู้สึกสบายตา และยังเลือกสีเฟอร์นิเจอร์เข้ากันได้ง่ายด้วย
สีส้ม/สีแดง เนื่องจากเป็นสีที่ให้ความรู้สึกร้อนแรง จึงมักนำมาใช้ตัดกับสีอื่นเพื่อเพิ่มความโดดเด่น แต่ไม่นิยมทาพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้าน เพราะอาจทำให้ร้อนแรงเกินไป ห้องที่ควรทาสีส้ม/สีแดง เช่น ห้องนั่งเล่น เพราะให้ความรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวา เป็นต้น
สีเขียว ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับตกแต่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน
การใช้สีที่ชอบ ส่งผลดีต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยอย่างมาก ดังนั้น ก่อนตกลงใจใช้สีใดควรศึกษารายละเอียดและจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้รอบคอบ เพราะสีทาบ้านไม่อาจเปลี่ยนได้ง่ายๆ

*ภาพสินค้าประกอบการโฆษณาเท่านั้น