ตอนนี้ประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูฝนไปครึ่งค่อนฤดูกันแล้ว สายฝนโปรยปรายลงมาสร้างความชุ่มฉ่ำเย็นใจกันทั่วทุกพื้นที่ หลายคนทั้งกังวลน้ำท่วมบ้าง กังวลการจราจรอันแสนติดขัดบ้าง แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลให้กับคนรักบ้านได้ไม่น้อยนั่นคือความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ไม้อันเกิดจากความชื้นที่มีปริมาณสูงในช่วงเวลานี้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้มักบวม พอง ผุ หรือมีเชื้อราเกิดขึ้นหากโดนฝนบ่อยๆ วันนี้เฮเฟเล่มีเคล็ดลับรับมือกับปัญหาดังกล่าวมาฝากกัน
เฟอร์นิเจอร์ไม้ในร่ม
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ มักไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากแสงแดดและน้ำฝนมากนัก ทำให้อายุการใช้งานยาวนาน วิธีการดูแลทำความสะอาดหรือรักษาทำได้ง่ายๆ ดังนี้- หมั่นใช้ไม้ปัดขนไก่หรือผ้าเนื้อนุ่มเช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ
- ใช้ผ้าหรือฟองน้ำเนื้อนุ่มชุบน้ำยาทำความสะอาดฤทธิ์อ่อนโยนเช็ดให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง ข้อสำคัญคือ ให้ชุบน้ำพอหมาดเท่านั้น อย่าชุบจนเปียกชุ่มเกินไป เพราะทำให้เนื้อไม้เกิดความเสียหาย บวม พอง เสียรูป หรือขึ้นราได้
- หากต้องการนำเฟอร์นิเจอร์ไปผึ่งแดด ควรเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ เนื่องจากถ้าเป็นช่วงเวลาแดดจัด แสงแดดจะทำให้เนื้อไม้กรอบเปราะหรือหักได้
- ควรทาหรือฉีดพ่นน้ำยาป้องกันปลวก มอด มด ให้ทั่วชิ้นเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันมิให้แมลงดังกล่าวมากัดกินเนื้อไม้
- ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น เพื่อช่วยปกป้องเนื้อไม้ เพราะแม้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะไม่โดนฝนโดยตรง แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง จึงมักเกิดการโก่งตัวพองผิดรูปได้ สีกันน้ำสามารถช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้นานขึ้น
- ในวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก มีแสงแดด ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูให้อากาศถ่ายเทหมุนเวียน จะช่วยลดความชื้นภายในบ้านได้ ส่งผลดีต่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วย
เฟอร์นิเจอร์ไม้กลางแจ้ง
แสงแดดและฝนคือศัตรูตัวร้ายของเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งเหล่านี้ ซึ่งหากดูแลไม่ดี อาจส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายจนถึงขั้นใช้งานไม่ได้ ดังนั้น จึงควรป้องกันหรือแก้ไขดังนี้- หากสามารถนำเฟอร์นิเจอร์หลบเข้าร่มได้ ก็ควรทำ หรืออาจจะย้ายเข้ามาอยู่ใต้กันสาดหรือบริเวณที่มีหลังคาบังบ้าง ซึ่งช่วยให้โดนฝนและแดดน้อยลง
- รอยคราบน้ำฝนหรือสิ่งสกปรก สามารถกำจัดได้โดยการใช้ฟองน้ำแตะมายองเนสเล็กน้อย แล้วขัดถูบริเวณรอยนั้น หรือใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดและขัดเงาขัดถูบริเวณที่เป็นคราบก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ทั้งเงางามดูเหมือนใหม่และช่วยขจัดรอยขีดข่วนได้ด้วย
- การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ถูกต้อง ควรใช้ไม้ปัดขนไก่ปัดฝุ่นออก แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดอีกครั้ง และปล่อยให้แห้ง หากมีรอยเปื้อนฝังแน่น สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง สามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดได้ แล้วใช้น้ำผึ้งทาทับ และใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว และขัดด้วยขี้ผึ้ง
- ควรทาพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ด้วยผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาดูแลผิวไม้โดยเฉพาะ เพื่อปกป้องสีของไม้ให้คงทน โดยวิธีการทาที่ถูกต้องคือ ควรใช้แปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยาดูแลผิวไม้ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีก 2 ครั้ง ปล่อยให้แห้ง และใช้กระดาษทรายขัด จากนั้นทาทับด้วยน้ำยาอีกครั้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่ถ้าใครไม่มีน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ อาจมองหาโลชั่นที่เหลือใช้ นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ บีบโลชั่นใส่เพียงเล็กน้อย แล้วนำไปเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่ปัดฝุ่นแล้ว จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เงางามและฝุ่นเกาะติดยากไปสักพักหนึ่ง เรียกว่าทั้งเงางามแถมหอมอีกด้วย
- ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น เพื่อช่วยปกป้องเนื้อไม้จากทั้งแสงแดดและฝน รวมทั้งควรทาน้ำยาป้องกันปลวก มด มอดด้วย
เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ยาวนานขึ้น ทั้งยังช่วยให้เนื้อไม้ไม่โก่งตัวหรือบิดงอผิดรูปจนเกิดความเสียหายด้วย ทำให้เฟอร์นิเจอร์คงความแข็งแรงและสวยงาม น่าใช้งานเป็นอย่างดี
*ภาพสินค้าทั้งหมดเพื่อประกอบการโฆษณาเท่านั้น