เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “เรื่องผีๆ” คำนี้ไม่ว่าจะยุคสมัยใด ก็เสมือนว่ามีมนต์ขลังที่สามารถเรียกความสนใจได้จากคนทุกเพศทุกวัย แม้ปากบอกว่ากลัว แต่สุดท้ายก็มักลงเอยที่นั่งฟังหรือนั่งเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์สยองกันอย่างสนุกสนาน หลายคนประสบกับเหตุการณ์ลึกลับจากบริเวณสถานที่ต่างๆ ที่ย่างกรายไปถึง เช่น โรงแรม โรงพยาบาล หรือสำนักงานที่ตนเองทำงานอยู่ เจอเพียงเท่านี้ยังรู้สึกอกสั่นขวัญผวาจนต้องไปหาของดีมาช่วยให้อุ่นใจ
แต่ถ้าประสบการณ์ที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้นี้มาเกิดกับบ้านของเราละ จะขวัญหนีดีฝ่อขนาดไหน ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า การจัดแต่งบ้านที่ผิดหลักฮวงจุ้ย อาจนำพาวิญญาณหรือสัมภเวสีเข้ามาเฉียดใกล้หรือมาอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ ดังนั้น เรามาจัดบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยกันดีกว่า เพื่อให้เกิดความสบายใจว่า บ้านที่เปรียบดั่งวิมานของเรานั้น จะไม่มีสิ่งลี้ลับใดๆ มารังควาน
มาดูกันว่า มีปัจจัยใดบ้างที่เกื้อหนุนให้สิ่งเร้นลับมาลงหลักปักฐานกับบ้านของคุณ จะได้พึงหลีกเลี่ยงและกำจัดสิ่งเหล่านี้เสีย
ทำเลที่ตั้งอัปมงคล
หากบ้านใครตั้งอยู่บริเวณทางสามแพร่ง ทางโค้ง หรืออยู่ใกล้กับโรงพยาบาล วัด สุสาน สถานที่เหล่านี้แน่นอนว่าผู้อยู่อาศัยต้องพบเจอกับเหตุการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชุมนุมของวิญญาณมากมาย เป็นสถานที่ที่มนุษย์มีการบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือล้มตายจำนวนมาก จึงไม่แปลกถ้าหากอยู่อาศัยแล้ว คนในบ้านเกิดการเจ็บป่วย ทะเลาะเบาะแว้ง มีเหตุให้ต้องสูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สินเงินทอง
บรรยากาศภายในบ้านและบริเวณรอบบ้าน
หลายบ้านมักปล่อยปละละเลยให้บ้านรกเลอะเทอะ มีข้าวของสกปรกระเกะระกะ ปล่อยให้บ้านเก่าคร่ำคร่าทรุดโทรม และปล่อยให้บ้านมืดครึ้มอึมครึม มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งอาจด้วยต้องการประหยัดไฟจนเกินควรก็เป็นได้ แต่การที่บ้านพักอาศัยของเราเป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้สัมภเวสีหรือวิญญาณเร่ร่อนถูกอกถูกใจและยกโขยงกันมาอยู่ได้ วิธีแก้ไขก็ง่ายๆ คือ ควรติดหลอดไฟให้มีแสงสว่างรอบบริเวณบ้านและภายในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณหน้ารั้วประตูบ้าน นอกจากช่วยป้องกันภูตผีแล้ว ไฟที่สว่างไสว ยังป้องกันโจรขโมยที่จะมาดักซุ่มอยู่ตามมุมมืดของบ้านได้ด้วย
ต้นไม้ต้องห้าม วิญญาณชอบสิงสู่
สำหรับปัจจัยข้อนี้ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ปลูกต้นไม้บริเวณบ้านเลย เพราะถึงอย่างไรต้นไม้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากทำให้อากาศรอบบ้านบริสุทธิ์สดชื่นและช่วยลดทอนความร้อนจากแสงแดดลงไป ซึ่งเหมาะกับอากาศบ้านเมืองเรายิ่งนัก แต่ควรหลีกเลี่ยงการปลูกต้นตะเคียน ต้นไทร ต้นโพธิ์ ต้นกล้วยตานี ดอกซ่อนกลิ่นไว้ในบริเวณบ้าน เพราะคุณอาจพบเจอกับนางไม้ นางตะเคียน นางตานี หรือดวงวิญญาณอื่นๆ ได้ ทางที่ดีควรปลูกต้นมะขาม ต้นมะยม ต้นขนุน ตามคติความเชื่อของคนไทยโบราณจะดีกว่า และที่สำคัญ ถ้ามีต้นไม้ยืนตายซากอยู่ใกล้บ้าน ให้รีบตัดทิ้ง
ประตู 2 หรือ 3 บาน ตรงกัน
หลายคนคงเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่อบรมสั่งสอนกันมาว่า บ้านที่ถูกตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ไม่ควรมีประตู 2 หรือ 3 บาน ตรงกัน เพราะเชื่อกันว่า “เป็นทางผีผ่าน” ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ที่ไม่อาจหาคำตอบได้ หรือบางคนเชื่อว่าการที่ประตู 2 หรือ 3 บาน ตรงกันพอดีนั้น ทำให้โชคลาภที่เข้ามาทางประตูหน้าบ้านไหลออกทางประตูหลังอย่างรวดเร็ว รวมทั้งบางคนยังเชื่อด้วยว่า จะทำให้เก็บเงินทองไม่อยู่ หาเงินมาได้เท่าไรก็มีเหตุให้ต้องเสียไป ดังนั้นเพื่อความสบายใจ ควรออกแบบบ้านอย่าให้ประตูตรงกัน ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้หาฉาก ตู้ หรือโต๊ะมาวางกั้นก็พอช่วยได้
ของประดับตกแต่งที่มาจากสัตว์
คนรักบ้านที่ชื่นชอบการกตแต่งบ้าน ควรเลือกใช้ภาพ วัตถุ รูปปั้น หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิริมงคล เช่น รูปทิวทัศน์ รูปธรรมชาติ ลูกแก้วคริสตัล รูปปั้นม้า รูปปั้นปลาหลีฮื้อ แต่ไม่ควรประดับประดาด้วยของอัปมงคลอย่างเช่น เขาสัตว์ หนังสัตว์ หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์ เพราะมักมีแรงอาฆาตของสัตว์ที่ถูกฆ่าติดตามมาด้วย สมาชิกในบ้านอาจถูกวิญญาณสัตว์รังควาน ทำร้าย หรือดลใจให้ทำเรื่องไม่ดีต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การปลูกสร้างบ้านเรือนสมัยใหม่ซึ่งมักประสบปัญหาด้านข้อจำกัดของพื้นที่ใช้สอยนั้น อาจไม่สามารถออกแบบหรือสร้างองค์ประกอบทุกอย่างในบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ยได้ทั้งหมด ซึ่งผู้อยู่อาศัยไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป ขอเพียงเราหมั่นทำความดีอย่างสม่ำเสมอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครองให้ท่านแคล้วคลาดจากสิ่งที่มองไม่เห็นทั้งปวง ดังที่โบราณกล่าวว่า “คนดีผีคุ้ม”