ขณะที่เราอาบน้ำหรือชำระล้างร่างกายต่างๆ ทุกครั้งย่อมมีทั้งฝุ่นละอองและคราบเหงื่อไคล หลุดไปติดตามร่องกระเบื้องอย่างแน่นอน ยิ่งพอกพูนนานวันเข้า บวกกับห้องน้ำมีความชื้นสะสมมากเกินไป ร่องยาแนวก็จะกลายเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคชั้นดี ส่งผลให้เกิดคราบเหลืองหรือคราบราดำ เห็นแล้วน่าเกลียด… (เสียงสูงปรี๊ด) สุดๆ สำหรับหลักการป้องกัน และวิธีขจัดคราบฝังแน่นทั้งหลาย มีอะไรบ้างนั้น ลองมาอ่าน… พร้อมทำความเข้าใจกัน แล้วอย่าลืม! นำไปใช้ด้วยนะจ๊ะ ปฏิบัติ!
หลักการป้องกัน เพื่อลดการเกิดเหตุ (ที่ไม่ควรมองข้าม)
- เพราะความชื้นในห้องน้ำเป็นบ่อเกิดของเชื้อราและแบคทีเรีย หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จ ควรเปิดพัดลมระบายอากาศ (ต้องติดตั้งให้ระบายออกนอกอาคาร) หรือเปิดหน้าต่างเพื่อดึงแสงแดดและลมธรรมชาติเข้ามาช่วยระบายความชื้นออกไปให้หมด
- การใช้ยาแนวผิดประเภท! ก็มีส่วนนะคุณ! เพราะสมัยนี้มีการผลิตยาแนวสำหรับใช้ในห้องน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจากยาแนวทั่วไปคือช่วยปกป้องราดำ (ทำให้เกิดยากขึ้น ใช่ว่าจะไม่เกิด) ลักษณะของเนื้อยาแนวนั้นไม่มีรูพรุน ทนกรดหรือทนต่อน้ำยาล้างห้องน้ำแรงๆ ได้ รวมถึงมีความยืดหยุ่นสูงและทนแรงกะแทกได้ดี จึงทำให้ไม่แตกหักง่าย
- หากพบว่าร่องยาแนวร้าวหรือแตกหัก ควรทำการซ่อมแซมทันที เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้น้ำซึมเข้าไปใต้กระเบื้อง คราวนี้ไม่เพียงประสบปัญหาคราบเชื้อรา แต่ต้องมาผจญกับเหตุการณ์น้ำซึมพื้นปูนและรั่วลงไปพื้นที่ด้านล่างได้ OMG! ฉะนั้นอย่าปล่อยปละเลยนะเคสนี้
วิธีปราบคราบสกปรกบนร่องยาแนว (แบบผูกมิตรต่อผู้ใช้งาน)
การทำความสะอาดร่องยาแนวโดยทั่วไป มักใช้ผงซักฟอกหรือใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำความสะอาด แต่ครั้งนี้เรามีสูตรในตำนาน ซึ่งเป็นมิตรแก่ผู้ใช้งานให้ลองนำไปใช้กัน
วัตถุดิบ เบกกิ้ง โซดา, น้ำส้มสายชู และแปรงสีฟันเก่าไม่ใช้แล้ว
วิธีทำ โรยเบกกิ้งโซดา ไปตามร่องยาแนวที่เกิดคราบสกปรก หรือคราบดำ จากนั้นนำน้ำส้มสายชูมาเทราดทับลงไป (แนะให้ใส่น้ำส้มสายชูไว้ในฟ็อกกี้หรือกระบอกฉีดน้ำ เพื่อฉีดพ่นลงไปจะประหยัดกว่า) แล้วทิ้งไว้สักประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นใช้แปรงสีฟันขัดให้ทั่ว ก่อนราดน้ำทำความสะอาด เท่านี้ก็จะทำให้ร่องยาแนวดูใหม่ไม่หม่นหมอง เป็นวิธีง่ายๆ ที่ประหยัดเงินในกระเป๋าทีเดียว